Pharma NEWs
ฉบับประจำวันที่ 16 สิงหาคม 2555

  ข่าวจากฝ่ายเภสัช 

        กลุ่มงานเภสัชกรรม ขอเชิญชวนบุคลากรทางการแพทย์และผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมสัปดาห์ความปลอดภัยในระบบยา     ระหว่างวันที่ 21-24 สิงหาคม 2555  ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารอุบัติเหตุ เพื่อฟื้นฟูองค์ความรู้ในการสั่งใช้และบริหารยาอย่างถูกต้อง สร้างบรรยากาศแลกเปลี่ยนเรียนรู้เชิงคุณภาพทางระบบยา 

เปลี่ยนแปลงบัญชียาโรงพยาบาล


1. เปลี่ยนแปลงรายการยา  โดยตัดยา Levomet®( Levodopa 100 mg/Carbidopa 25 mg) ออกจากบัญชียาโรงพยาบาล และ นำยา Vopar 250® (Levodopa 200 mg/Benserazide 50 mg) เข้ามาแทน


ยาเดิม(ตัดออกจากบัญชี)


ยาใหม่



Vopar 250
ส่วนประกอบ : ใน 1 เม็ด ประกอบด้วย Levodopa 200 mg, Benserazide HCl eq to Benserazide 50 mg
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา : Dopamine จัดเป็นสารสื่อประสาทในสมอง เมื่อขาด Dopamine เป็นผลให้เกิดภาวะโรคพาร์กินสัน เมื่อ Levodopa เข้าสู่ร่างกายจะถูกเปลี่ยนแปลงเป็น Dopamine ทั้งภายในและภายนอกสมอง ดังนั้นการใช้ Benserazide ซึ่งเป็น peripheral decarboxylase inhibitor จะช่วยป้องกันการเกิด Dopamine ภายนอกสมอง จึงช่วยลดผลข้างเคียงและเป็นผลให้ Levodopa ผ่านเข้าสู่สมอง และเปลี่ยนแปลงเป็น Dopamine ในสมองได้มากขึ้น ส่งผลให้ประสิทธิผลของยา Levodopa เพิ่มขึ้น
ข้อบ่งใช้ : บรรเทาอาการของโรคพาร์กินสัน
ขนาดและวิธีใช้ : เริ่มแรกรับประทาน 1/2 เม็ด หลังจากนั้นแพทย์จะปรับขนาดยาได้สูงสุด 2-4 เม็ด แบ่งให้วันละ 3-4 ครั้ง และควรรับประทานยานี้หลังอาหาร เพื่อป้องกันการระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหาร
ข้อห้ามใช้ : ห้ามใช้ยานี้ร่วมกับยากลุ่ม MAOI (ยกเว้น seligiline),ผู้ป่วยที่มีภาวะบกพร่องอย่างรุนแรงของตับ,ไต,หัวใจ
ผลข้างเคียง : อาการที่พบมากได้แก่ ปัสสาวะลำบาก,หัวใจเต้นผิดปรกติ, ความผิดปรกติทางอารมณ์,คลื่นใส้ อาเจียน,หน้ามืด

ความรู้คู่ยา

ความเสี่ยงในการเกิด Torsades de Points ของยา Ondansetron injection

 
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาขอแจ้งเตือนความเสี่ยงจากการใช้ยา  ondansetron ชนิดฉีด ฉีดเข้าเส้นครั้งเดียว (Single Intravenous Dose) ขนาด 32 mg อาจทำให้หัวใจเต้นผิดปกติและอาจถึงเสียชีวิตได้ 
องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (USFDA) ได้รายงานผลการศึกษาทางคลินิกเบื้องต้น( Pre liminary results) ของยา ondansetron ชนิดฉีดเข้าเส้นครั้งเดียว ขนาด 32 mg. ว่าอาจมีผลต่อการทำงานไฟฟ้าของหัวใจ ทำให้ QT interval นานขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิด Torsades de Points ที่ทำให้เสียชีวิตได้ และได้ให้คำแนะนำการใช้ยา ondansetron  ชนิดฉีด ดังนี้
-     ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาชนิดฉีดเข้าเส้นครั้งเดียวขนาด 32 mg. การเกิด  QT ขึ้กับขนาดยา (dose-dependent manner)
-    ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อการเกิด QT Prolongation ได้แก่ผู้ป่วยที่มี QT Intervalยาวผิดปรกติแต่กำเนิด หัวใจล้มเหลว หัวใจเต้นช้าผิดปกติ และผู้ป่วยที่รับประทานยาที่มีผลทำให้ QT Interval ยาวขึ้น
- ควรแก้ไขความผิกปรกติ ของอิเล็คโตรไลท์  เช่น hypokalemia, hypomagnesemia ก่อนให้ยาฉีด ondansetron
-   ขนาดยาในผู้ใหญ่ สำหรับป้องกันการคลื่นใส้อาเจียนจากยาเคมีบำบัด ใช้ในขนาดต่ำกว่า 0.15 mg/kg ทุก 4 ชั่วโมง จำนวน 3 ครั้ง (dose) โดยไม่ควรเกิน 16 mg. ฉีดเข้าเส้นครั้งเดียว
-   ข้อมูลความเสี่ยงดังกล่าวไม่รวมถึงการให้ยา ondansetron ชนิดเม็ด และไม่มีการเปลี่ยนแปลงคำแนะนำการให้ยา ondansetron ชนิดเม็ด
ยา ondansetron เป็นยาในกลุ่ม 5-HT3 receptor antagonist  ใช้ในการป้องกันอาการคลื่นใส้และอาเจียนจากการได้รับยาเคมีบำบัด การฉายรังสีและการผ่าตัด สำหรับประเทศไทย  ยา ondansetron ชนิดฉีดที่ได้รับอนุมัติทะเบียน มีจำนวน 11 ตำรับ ได้แก่ Zetron® 2 mg,Onsia® 2 mg, Ondran® 2 mg, Ondavell ®4 mg, Ondavell ®8 mg,Emistop®, Zofran® และ Ondansetron® injection usp 2 mg
                     ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกพบว่า ondansetron มีเหตุการไม่พึงประสงค์ทั้งหมด 6,790 ฉบับ โดยพบ heart block 7 ฉบับ,Torsade de pointe 40 ฉบับ และ QT prolong 62 ฉบับ ในประเทศไทย จากฐานข้อมูลของศูนย์เฝ้าระวังความปลอดภัยด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ (Thai Vigibase) พบว่ายา ondansetron มีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ทั้งหมด 103 ฉบับ โดยไม่พบเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
        เนื่องจากการศึกษาดังกล่าวเป็นฉบับ preliminary result ในเบื้องต้นขอให้บุคลากรทางการแพทย์ ใช้ยาดังกล่าวด้วยความระมัดระวัง และปฏิบัติตามคำแนะนำของ U.S. FDA ข้างต้น ในกรณีที่พบอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา ondansetron ขอให้แจ้งไปยังศูนย์เฝ้าระวังความปลอดภัยด้านผลิตภัณฑ์

ทบทวนความเสี่ยงเพื่อการป้องกันเชิงระบบ

        พบความสี่ยง เรื่องการสั่งใช้ยา Vancomycin inj. รายละเอียด ดังนี้
โดยแพทย์ได้เขียนคำสั่งใช้ยา Vancomycin 1 g. in D-5-W 100 ml IV drip in 1 hr q 5 day 





         ห้องจ่ายยาได้จ่ายยา โดยอ่านคำสั่งใช้ยาเป็น  vancomycin  1 g. in D-5-W 100 mg IV drip in 1 hr OD    พยาบาลคัดลอกคำสั่งใช้ยาเป็น  เป็น  vancomycin  1 g. in D-5-W 100 mg IV drip in 1 hr q 8 hr   ซึ่งจากความคลาดเคลื่อนในการคัดลอกคำสั่งใช้ยานี้ ทำให้เกิดการบริหารยาที่คลาดเคลื่อนกับผู้ป่วย
        จึงได้มีการทบทวน ระบบงาน โดย
-   หากไม่แน่ใจในคำสั่งการใช้ยาให้ยืนยันการสั่งใช้ยากับแพทย์
-      ประสานในเรื่องการบริหารยา vancomycin  เรื่อง ความเข้มข้นของ vancomycin ในสารละลาย ต้องไม่เกิน 5 mg/ml แต่ผู้ป่วยรายนี้ได้รับยาที่ความเข้มข้น 10 mg/ml ในกรณีนี้ต้องผสมยาในสารละลาย 200 ml จึงจะได้ความเข้มข้น 5 mg/ml
- ทบทวนระบบในกลุ่มงานเภสัชกรรม ให้ระวังความคลาดเคลื่อนในการจ่ายยา และระวังเรื่องความเข้มข้นของยาให้เป็นไปตามที่กำหนด
- มีการเฝ้าระวัง ติดตามอาการไม่พึงประสงค์ของยาที่อาจเกิดขึ้น เฝ้าระวัง อาการ Red man syndrome
- ประสานงานกับแพทย์ เรื่องการให้ยาไม่เกินความเข้มข้นที่กำหนด คือ 5 mg/ml



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

16 february 2015

มกราคม 2560