ยาเดิม
ความรู้คู่ยา
ยา Hydroxyzine กับความผิดปรกติของคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา แจ้งข้อมูลความปลอดภัยของยา Hydroxyzine กับการเกิดความผิดปรกติของคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ชนิด QT interval prolongation และ Tosade de pointes เนื่องจาก ผลการทบทวนข้อมูลความปลอดภัยของ สหภาพยุโรป พบว่า ความเสี่ยงดังกล่าวมีความสัมพันธ์กับการใช้ยา Hydroxyzine อย่างชัดเจน โดยห้ามใช้ยานี้ในผู้สูงอายุ และผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ( heart rhythm disturbance) หรือใช้ร่วมกับยาอื่นที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิด QT interval prolongation และขนาดยาที่แนะนำให้ใช้คือ ผู้ใหญ่ไม่ควรเกิน 100 mg./วัน ผู้สูงอายุไม่ควรเกิน 50 mg/วัน ซึ่งขนาดยาที่วางขายทั่วไปในท้องตลาด คือ Hydroxyzine 10 mg./เม็ด
ยา Hydroxyzine เป็นยาในกลุ่ม antihistamine ได้รับอนุมัติข้อบ่งใช้ในประเทศไทย เพื่อ รักษาบรรเทาอาการวิตกกังวลในผู้ใหญ่ รักษาบรรเทาอาการคัน หรือให้ยาในเบื้องแรกก่อนทำการผ่าตัด จัดเป็นยาที่ต้องแจ้งข้อความคำเตือนในการใช้ยาไว้ในฉลากยา และ เอกสารกำกับยา
คำเตือนในฉลาก(กล่อง)
1. ยานี้ทำให้ง่วงซึม จึงไม่ควรขับขี่ยานยนต์หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล หรือทำงานที่เสี่ยงต่อการพลัดตกจากที่สูง
2. ไม่ควรรับประทานร่วมกับสุรา หรือสิ่งที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ
3. ไม่ควรใช้ยานี้ในสตรีมีครรภ์ระยะ 3 เดือนแรกและสตรีให้นมบุตร
คำเตือนในเอกสารกำกับยา ใช้คำเตือนเช่นเดียวกับฉลาก และเพิ่มคำเตือนต่อไปนี้ด้วย
1. ยานี้ทำให้ปากแห้ง ปัสสาวะขัด เสมหะเหนียวข้น ตาพร่า วิงเวียนและสับสนได้
2. เด็กและผู้สูงอายุ จะไวต่อยานี้มากขึ้น ทำให้ง่วงนอน ประสาทหลอน ปากแห้ง ปัสสาวะคั่ง ความดันโลหิตต่ำ หงุดหงิด นอนไม่หลับ และบางรายอาจมีอาการชักได้ (Paradoxical reaction)
3. ระวังการใช้ยานี้ร่วมกับยาที่มีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง เช่น Benzodiazepines ยาที่มีฤทธิ์แอนติโคลิเนอร์จิก และยาต้านอาการซึมเศร้าชนิดต่างๆ
4. ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด ต่อมไทรอยด์ทำงานมากกว่าปรกติ ผู้ที่มีประวัติโรคหอบ โรคถุงลมโป่งพอง
คณะอนุกรรมการศึกษาและเฝ้าระวังอันตรายจากการใช้ยา ได้พิจารณาข้อมูลยา Hydroxyzine แล้ว เห็นควรให้ปรับปรุงข้อความคำเตือนตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ให้ครอบคลุมถึงความเสี่ยงเกี่ยวกับภาวะความผิดปรกติของคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
ในเบื้องต้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา จึงขอความร่วมมือบุคลากรทางการแพทย์ ให้ใช้ยา Hydroxyzine ด้วยความระมัดระวังตามคำแนะนำของสหภาพยุโรป และเฝ้าระวังติดตามควมปลอดภัยการใช้ยา
เอกสารอ้างอิง : เข้าถึงได้จาก http://thaihpvc.fda.moph.go.th/thaihvc/Public/News/uploads/hpvc_2_5_0_100521.pdf
ทบทวนความเสี่ยง เพื่อการป้องกันเชิงระบบ
มีรายงานความเสี่ยง เรื่อง ผู้ป่วยไม่ได้รับประทานยา Rifampicin Syrup เนื่องจากไม่มีฉลากยา รายละเอียดดังนี้
ผู้ป่วย เด็กชายไทย ได้รับยา รักษาวัณโรค 4 ชนิด คือ Ethambutal tablet, Pyrazinamide syrup, INH syrup, Rifampicin syrup ต่อมาผู้ป่วยมาพบแพทย์ตามนัด พ่อถือขวดยาที่ยังไม่ผสมกลับมาด้วย แจ้งแพทย์ว่าไม่ได้รับประทานยา เนื่องจากว่าเข้าใจว่ากินครั้งละ 1 ขวด และ ยาขวดที่ยังไม่ผสมก็ไม่มีฉลากยา
ปัญหาที่พบ
1. ผู้ดูแลไม่เข้าใจวิธีการกินยารักษาวัณโรคว่าต้องกินยาพร้อมกันทั้ง 4 ชนิด
2. ปัญหาเรื่องฉลากยาน้ำ เมื่อห้องยาจ่ายยาน้ำชนิดเดียวกันมากกว่า 1 ขวด จะติดสติ๊กเกอร์ วิธีการกินยาเพียงขวดเดียว ไม่ได้ติดทั้งหมด เนื่องจากเกรงว่าผู้ป่วยจะรับประทานยาพร้อมกันทุกขวด แต่ทำให้เกิดปัญหาว่าผู้ป่วยไม่ได้รับประทานยาขวดที่ไม่มีฉลากยา
แนวทางการแก้ไข
1. ในกรณีที่มีการจ่ายยาน้ำชนิดเดียวกันมากกว่า 1 ขวด ให้จัดยาทั้งหมดใส่รวมในซองใหญ่ให้หมด และติดฉลากยาที่ซองใหญ่
2. ผู้ป่วยวัณโรคที่ได้รับยาน้ำ มากกว่า 2 ชนิดขึ้นไป ทุกราย ต้องเข้าไปรับคำแนะนำการใช้ยาที่ห้องให้คำปรึกษาด้านยา เพื่อสอนวิธีการกินยาให้กับผู้ป่วย
3. จัดทำฉลากช่วยในการกินยา ให้กับผู้ป่วยทุกครั้ง ที่มีการจ่ายยา
ฉลากช่วยในการกินยา
|
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น