กันยายน 2558
PHARMA NEWS
ฉบับประจำวันที่ 1 กันยายน 2558
ข่าวจากกลุ่มงานเภสัชกรรม
เปลี่ยนแปลงรายการยาในโรงพยาบาล
1. ยาระบายมะขามแขก
เปลี่ยนบริษัทจัดซื้อยา มาเป็น ชื่อการค้า Senokort ® ผลิตโดยบริษัท เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ เฮลธ์แคร์ ประเทศอังกฤษ จำกัด
ข้อบ่งใช้
ใช้สำหรับรักษาอาการท้องผูก เชนนา มีฤทธิ์เป็นยาระบาย ได้จากฝักของเมล็ดต้นมะขามแขก ออกฤทธิ์โดยการกระตุ้นให้ลำใส้มีการเคลื่อนไหว เชนนา ในเม็ดยาเสโนคอต ประกอบด้วยตัวยาสำคัญ เซนโนไซด์ ซึ่งอยู่ในรูปแบบที่ทำให้ได้มาตรฐาน เพื่อให้เม็ดยาเสโนคอตทุกเม็ด มีตัวยาสำคัญ เซนโนไซด์ในปริมาณ 7.5 มิลลิกรัม คงที่ทุกเม็ด
ใช้สำหรับรักษาอาการท้องผูก เชนนา มีฤทธิ์เป็นยาระบาย ได้จากฝักของเมล็ดต้นมะขามแขก ออกฤทธิ์โดยการกระตุ้นให้ลำใส้มีการเคลื่อนไหว เชนนา ในเม็ดยาเสโนคอต ประกอบด้วยตัวยาสำคัญ เซนโนไซด์ ซึ่งอยู่ในรูปแบบที่ทำให้ได้มาตรฐาน เพื่อให้เม็ดยาเสโนคอตทุกเม็ด มีตัวยาสำคัญ เซนโนไซด์ในปริมาณ 7.5 มิลลิกรัม คงที่ทุกเม็ด
ขนาดรับประทาน
ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุและเด็กอายุมากกว่า 12 ปี : 2-4 เม็ด ก่อนนอน
เด็กอายุ 6-12 ปี : 1-2 เม็ด (รับประทานเวลาเช้า)
เด็กอายุ 2-6 ปี : 1/2 - 1 เม็ด (รับประทานเวลาเช้า)
ขนาดรับประทานที่ถูกต้องคือ ขนาดต่ำสุดที่ทำให้ถ่ายได้ปกติ ซึ่งอาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล เนื่องจากบุคคลหนึ่งอาจจะถ่ายวันละครั้งเป็นปรกติ ในขณะที่บางบุคคลอาจถ่ายสัปดาห์ละ 3 ครั้ง เป็นปรกติ หลังจากรับประทานยาเสโนคอตแล้ว เมื่อการขับถ่ายกลับคืนสู่ภาวะปรกติก็สามารถหยุดยาได้
อาการข้างเคียง
อาจเกิดอาการปวดมวนท้องได้บ้าง ขณะเพิ่มขนาดยา
อาจเกิดอาการปวดมวนท้องได้บ้าง ขณะเพิ่มขนาดยา
ข้อควรระวัง
ห้ามใช้ยาระบาบทุกชนิดเมื่อมีอาการปวดท้องหรือคลื่นใส้อาเจียน
ห้ามใช้ยาระบาบทุกชนิดเมื่อมีอาการปวดท้องหรือคลื่นใส้อาเจียน
2. Losartan 50 mg.
เปลี่ยนบริษัทจัดซื้อยามาเป็น ชื่อการค้า LANZAAR 50® ผลิตโดยบริษัท Berlin Pharmaceutical Industry Co.,Ltd.
ข้อบ่งใช้
ใช้สำหรับรักษาโรคความดันโลหิตสูง รักษาภาวะแทรกซ้อนทางไตจากโรคเบาหวานในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งมีประวัติเป็นโรคความดันโลหิตสูง ใช้ลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วยที่มีโรคความดันโลหิตสูงร่วมกับกล้ามเนื้อหัวใจโต
ใช้สำหรับรักษาโรคความดันโลหิตสูง รักษาภาวะแทรกซ้อนทางไตจากโรคเบาหวานในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งมีประวัติเป็นโรคความดันโลหิตสูง ใช้ลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วยที่มีโรคความดันโลหิตสูงร่วมกับกล้ามเนื้อหัวใจโต
ขนาดรับประทาน : ขึ้นกับการวินิจฉัยของแพทย์
อาการข้างเคียง
อาการที่เกิดขึ้น มากกว่า 10 % ได้แก่ ระบบหลอดเลือดหัวใจมีอาการเจ็บหน้าอก ระบบประสาทส่วนกลางอาการล้า ระบบต่อมไร้ท่อมีอาการภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ระบบทางเดินอาหารพบอาการท้อเสีย อาการระบบสืบพันธุ์พบการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ระบบเลือดพบอาการโลหิตจาง เป็นต้น
ข้อควรระวัง
ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้หรือควรใช้ยานี้ในขนาดต่ำๆในผู้ป่วยที่มี volume depletion ควรใช้ด้วยความระมัดระวังในผู้ป่วยที่มีภาวะไตผิดปกติ ภาวะตับผิดปกติ
ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้หรือควรใช้ยานี้ในขนาดต่ำๆในผู้ป่วยที่มี volume depletion ควรใช้ด้วยความระมัดระวังในผู้ป่วยที่มีภาวะไตผิดปกติ ภาวะตับผิดปกติ
3. Imipenem and Cilastatin for injection 500 mg.
เปลี่ยนบริษัทจัดซื้อยามาเป็นชื่อการค้า BACQURE® ผลิตโดยบริษัท RANBAXY laboratories limited.
ข้อบ่งใช้
รักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรีย
รักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรีย
ขนาดยา
ขึ้นกับการวินิจฉัยของแพทย์
ขึ้นกับการวินิจฉัยของแพทย์
อาการข้างเคียง
โดยทั่วไปผู้ป่วยจะทนต่ออาการข้างเคียงของยาได้ดี อาการข้างเคียงที่ทำให้ที่ทำให้ต้องหยุดการให้ยามีน้อยและโดยทั่วไปอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นคืออาการเฉพาะที่ เช่น บวมแดงและปวดบริเวณที่ฉีดยา หลอดเลือดดำอักเสบ อาการแพ้ ผื่นแดง คัน ลมพิษ เป็นต้น
โดยทั่วไปผู้ป่วยจะทนต่ออาการข้างเคียงของยาได้ดี อาการข้างเคียงที่ทำให้ที่ทำให้ต้องหยุดการให้ยามีน้อยและโดยทั่วไปอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นคืออาการเฉพาะที่ เช่น บวมแดงและปวดบริเวณที่ฉีดยา หลอดเลือดดำอักเสบ อาการแพ้ ผื่นแดง คัน ลมพิษ เป็นต้น
ข้อควรระวัง
มีรายงานการเกิดอาการข้างเคียงต่อระบบประสาทส่วนกลาง เช่น อาการสับสน และชักเมื่อให้ยาทางหลอดเลือดดำ โดยเฉพาะเมื่อให้ยาเกินขนาดเเนะนำ อาการข้างเคียงเหล่านี้มักพบในผู้ป่วยที่มีอาการผิดปกติทางระบบประสาทส่วนกลางอยู่ก่อนแล้ว หรือผู้ที่มีภาวะไตทำงานผิดปกติ
มีรายงานการเกิดอาการข้างเคียงต่อระบบประสาทส่วนกลาง เช่น อาการสับสน และชักเมื่อให้ยาทางหลอดเลือดดำ โดยเฉพาะเมื่อให้ยาเกินขนาดเเนะนำ อาการข้างเคียงเหล่านี้มักพบในผู้ป่วยที่มีอาการผิดปกติทางระบบประสาทส่วนกลางอยู่ก่อนแล้ว หรือผู้ที่มีภาวะไตทำงานผิดปกติ
ผลการดำเนินงาน Drug Reconcile ผู้ป่วยใน
กลุ่มงานเภสัชกรรม ได้ทำกิจกรรม ทบทวนการใช้ยา ผู้ป่วยใน ( Drug Recocile) เมื่อผู้ป่วยมารักษาที่โรงพยาบาล เภสัชกรจะไปทบทวนรายการยาที่ผู้ป่วยรับประทานอยู่ที่บ้าน ร่วมกับยาที่แพทย์สั่ง ขณะนอนรักษาที่โรงพยาบาล เพื่อลดความซ้ำซ้อนของยา
เดือน สิงหาคม 2558 มีผู้ป่วยที่ต้องทำการทบทวนการใช้ยาทั้งหมด 25 ราย สามารถทบทวนการใช้ยาได้ทั้งหมด 22 ราย ผู้ป่วยที่ไม่ได้ทบทวนการใช้ยาเป็นผู้ป่วยหอผู้ป่วยตา เนื่องจากเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลในเวลาไม่นานแพทย์ก็ให้กลับบ้าน จำนวนผู้ป่วยที่เภสัชกรเข้าไปทำกิจกรรมทบทวนการใช้ยาในแต่ละหอผู้ป่วย แสดงดังกราฟ
กราฟแสดง ร้อยละ ผู้ป่วยที่เภสัชกร ทบทวนการใช้ยา
ผู้ป่วยที่ได้ทบทวนการใช้ยา จะเป็นผู้ป่วยที่รักษาที่แผนกอายุรกรรม มากที่สุด ลำดับต่อมาเป็นผู้ป่วยแผนกศัลยกรรม และหอผู้ป่วยประกันสังคม ดังกราฟ
กราฟแสดงร้อยละของผู้ป่วยที่ทบทวนการใช้ยา แยกตามแผนก
รายงานการเกิดทางเดินอาหารอุดตัน
(Gastrointestinal obstruction) จากการใช้ยา Adalat CR ®
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาขอแจ้งเตือนความเสี่ยงการเกิดทางเดินอาหารอุดตัน (gastrointestinal obstruction หรือ bezoar formation) ภายหลังจากการใช้ยา Adalat CR ®โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดภาวะดังกล่าวอยู่ก่อน
สืบเนื่องจากศูนย์เฝ้าระวังความปลอดภัยด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้รับรายงานการเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ภายหลังจากการใช้ยา Adalat CR ®ในผู้ป่วยหญิงอายุ 78 ปี โดยพบเปลือกของเม็ดยาจำนวน 51 เม็ดในลำใส้ของผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดลำใส้ เนื่องจากอาการของลำใส้อุดตันร่วมกับพบเนื้องอกในลำใส้ เนื่องจากตัวยา nifedipine บรรจุในเปลือกที่ไม่ถูกดูดซึม โดยภายหลังปล่อยตัวยาให้ถูกดูดซึม เปลือกจะถูกกำจัดออกทางอุจจาระ และมีโอกาสเกิดก้อนในกระเพาะอาหารที่ไม่ผ่านเข้าไปในลำใส้หลังจากได้รับการย่อยครั้งแล้วครั้งเล่า หรือทางเดินอาหารอุดตัน
จากฐานข้อมูลศูนย์เฝ้าระวังความปลอดภัยด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ ( Thai Vigibase) ไม่พบรายงานการเกิดก้อนในกระเพาะอาหารที่ไม่ผ่านเข้าไปในลำใส้ หลังจากได้รับการย่อยครั้งแล้วครั้งเล่า หรือทางเดินอาหารอุดตัน จากการใช้ยา Adalat CR ® ส่วนฐานข้อมูลเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ขององค์การอนามัยโลก (WHO-VigiLyze) พบเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์เกี่ยวกับทางเดินอาหารอุดตันภายหลังการใช้ยา Adalat รูปแบบ extened release ทั้งหมด 9 รายงานโดยพบอาการ bezoar และ gastrointestinal obstruction อย่างละ 5 อาการ intestinal ischaemia, ileua spastic ,gastric ulcer และ gastrointestinal haemorrhage อย่างละ 1 อาการ ผลของอาการหายเป็นปกติ 3 ราย ไม่ทราบผล 3 ราย อาการไม่ดีขึ้น 2 ราย และเสียชีวิตที่อาจเกี่ยวข้องกับยา 1 ราย
เข้าถึงได้จาก: http://thaihpvc.fda.moph.go.th/thaihvc/Public/NewsAdr/uploads/hpvc_198.pdf
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น