1 december 2012

PHARMA NEWS

 ฉบับประจำวันที่ 1 ธันวาคม  2555

   

ข่าวจากฝ่ายเภสัช

กลุ่มงานเภสัชกรรม มียาใหม่เข้าในบัญชียาโรงพยาบาล  1 รายการ  ดังนี้

1. Megaplex 160 mg

  ผลิตโดย บริษัท Pharmachemie B.V. Haarlem ประเทศนิวซีแลนด์ 

   ผู้แทนจำหน่าย :  บริษัท แปซิฟิค เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย)

 

ส่วนประกอบ : ยาเม็ด Megaplex  160 mg มีตัวยา megestrol acetate 160 mg

ขนาดยา 

มะเร็งเต้านมและมะเร็งเยื่อบุมดลูก : วันละ 160 mg. แบ่งให้วันละ 1-4 ครั้ง

เบื่ออาหารและน้ำหนักลดเนื่องจากมะเร็งหรือโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง  : วันละ 400-800 mg โดยให้ครั้งเดียว

ข้อบ่งใช้ยา : เป็นยาเสริมใช้ร่วมกับยาต้านมะเร็งหรือเคมีบำบัดอื่นในการรักษาเนื้องอกที่ไวต่อฮอร์โมน estrogen เช่น มะเร็งเยื่อบุมดลูกขั้นลุกลามและมะเร็งเต้านม, รักษาอาการเบื่ออาหารน้ำหนักลดเนื่องจากโรคมะเร็งหรือโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (AIDS)

ข้อห้ามใช้ : 

- หลอดโลหิตดำอักเสบก่อนที่จะเกิดลิ่มเลือด ความผิดปรกติที่เกิดจากภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลอดโลหิต การสลบอย่างกระทันหันตามด้วยอาการอัมพาตเนื่องจากเลือดตกในสมองหรือเคยมีประวัติของสภาพโรคเช่นนี้มาก่อน

- เลือดออกที่ช่องคลอดโดยไม่ทราบสาเหตุ

- หัวใจทำงานไม่ดี

- ความดันโลหิตสูง

- แพ้ยาหรือสารอื่นที่อยู่ในสูตรยานี้

- หญิงตั้งครรภ์และหญิงระหว่างให้นมบุตร

อาการข้างเคียงจากยา

- มีการคั่งของของเหลว

- ปวดท้อง, คลื่นใส้

- น้ำหนักเพิ่ม

- เจ็บหน้าอก กล้ามเนื้อหัวใจผิดปรกติ

- ความดันโลหิตสูง

- ใจสั่น เหงื่อออกมาก

- การไหลของประจำเดือนเปลี่ยนแปลงไป, ประจำเดือนขาด

- สับสน ซึม เศร้า ชัก

- เลือดออกเฉียบพลัน

- การรับความรู้สึกผิดปรกติ

-  มีไข้

- มีขนหรือผมมากเกินไป, สิว

- มองไม่เห็น ตาบวม เห้นภาพซ้อน

- น้ำนมหลั่งออกเองหรือหลั่งมากเกินไป รู้สึกไวผิดปรกติต่อการสัมผัสหรือการกดที่เต้านม

- การเกิดลิ่มเลือด ภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลอดโลหิต

- ตับอักเสบ การอุดตันที่ถุงน้ำดี

- ความรู้สึกไวเกินไป แพ้ยา มีผื่นแดงหรือผื่นดำที่เกิดจากการสะสมของ melanin อยู่เป็นแถบๆหรือโดยทั่วไปของผิวหนัง

 

ความรู้คู่ยา

 

ยาลดไขมันกลุ่ม statins กับการเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด

     วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2012 คณะกรรมการอาหารและยา ประเทศสหรัฐอเมริกา (USFDA) ได้มีการเพิ่มคำเตือนในเอกสารกำกับยาในยากลุ่ม statin ทุกชนิดว่า ทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำตาลในเลือด และ glycosylated hemoglobin (HbA1c) 


     สาเหตุที่มีการประกาศคำเตือนเพิ่มนี้  เนื่องจากได้มีการค้นพบข้อมูล ในการศึกษา หลายการศึกษา พบว่า ยากลุ่ม statin มีผลในการเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด  ยกตัวอย่างเช่น
   - การศึกษา ที่ตีพิมพ์ใน The NEW ENGLAND JOURNAL of MEDICINE   volume 359  no.21 ชื่อการศึกษาคือ  Rosuvastatin to Prevent Vascular Events in Men and Women with Elevated C - Reactive Protein พบว่า การใช้ยา rosuvastatin ขนาด 20 mg ต่อวัน ทำให้ incidence ของโรคเบาหวานเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของ HbA1c เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับ placebo
    จากการพบรายงานต่างๆ ทำให้คณะกรรมการอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกาจึงได้ประกาศให้เพิ่มคำเตือน เรื่อง ยากลุ่ม statins ว่า ทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของ ระดับ  Fasting plasma glucose และ HbA1c ลงในฉลากยากลุ่ม statins ทุกชนิด  กลไกในการทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำตาลในเลือด ยังไม่ทราบแน่ชัด อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ของยา กลุ่ม statins ในการป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ ยังมีประโยชน์อย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับผลที่ทำให้เกิดการเพิ่มของระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งมีการเพิ่มไม่มาก 
     ผู้ป่วยที่ได้รับยากลุ่ม statins แพทย์ต้องเฝ้าระวัง การเกิดโรคเบาหวานของผู้ป่วย และต้องแจ้งผู้ป่วยให้ทราบถึงความเสี่ยงดังกล่าวที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้ป่วย และให้คำแนะนำในการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต เพื่อป้องกันอาการข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นได้

    รายการยากลุ่ม statins ที่มีในโรงพยาบาล ได้แก่

1. simvastatin 40 mg



2. pravastatin tablet 40 mg (MEVALOTIN)



3.rosuvastatin tablet 10 mg (CRESTOR)


4. atrovastatin tablet 20 mg (XARATOR)


5.  Pitavastatin  2 mg. (LIVALO)


ทบทวนความเสี่ยง เพื่อการป้องกันเชิงระบบ

เดือนพฤศจิกายน มีรายงานความเสี่ยง ในเรื่อง ความเสี่ยงในการเกิดการแพ้ยาซ้ำที่น่าสนใจ  ดังนี้
case 1 ผู้ป่วยหญิงไทย มารับการรักษาที่โรงพยาบาล มีประวัติแพ้ยา penicillin  ระบุอาการที่แพ้ยา คือ ผื่นตามตัว คัน 
ต่อมา แพทย์สั่งยา Tazocin ซึ่งเป็นยาสูตรผสมระหว่าง piperacillin กับ tazobactam ซึ่งผู้ที่แพ้ยา penicillin มีโอกาสที่จะแพ้ยาได้ ห้องจ่ายยาผู้ป่วยใน ได้จ่ายยามายังหอผู้ป่วย พยาบาลบริหารยาให้ผู้ป่วยไป 2 dose  แต่ผู้ป่วยยังไม่มีอาการผิดปรกติใดๆ 
การแก้ไข  
  • ซักประวัติผู้ป่วยเพิ่มเติม ผู้ป่วยปฏิเสธการใช้ penicillin มาก่อน ทบทวนประวัติการใช้ยาในโรงพยาบาล พบว่าไม่เคยได้รับยาในกลุ่ม penicillin 
  • consult แพทย์ เนื่องจากอาการที่เกิด เป็นอาการที่เกิดผ่านการกระตุ้น IgE เสนอแพทย์หยุดยา Tazocin และติดตามอาการผู้ป่วยต่อ
  • ตรวจสอบการบันทึกประวัติการแพ้ยาในระบบคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาล พบว่ายังไม่มีการ block รหัสยา Tazocin ทำให้เกิดความผิดพลาดในการจ่ายยา Tazocin ออกไปให้กับผู้ป่วย จึงทำการ block รหัสยาในกลุ่ม penicillin ทั้งหมด เพิ่มเติม

 

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

16 february 2015

มกราคม 2560