PHARMA NEWS

 ฉบับประจำวันที่ 16  กุมภาพันธ์   2556

ข่าวจากฝ่ายเภสัช


มีรายการยาสมุนไพรเข้าใหม่ ในบัญชียาโรงพยาบาลดังนี้

 1. ยาเหลืองปิดสมุทร ตรา ธงทอง


ส่วนประกอบ  :   แห้วหมู, ขมิ้นอ้อย,  เปลือกเพกา,  รากกล้วยตีบ,  กระเทียมคั่ว,  ดีปลี,  ชันย้อย,  ครั่ง, สีเสียดเทศ, สีเสียดไทย, ใบเทียน, ใบทับทิม

 สรรพคุณ  : แก้ทองเสียชนิดไม่ติดเชื้อ

ขนาดและวิธีใช้ : รับประทานครั้งละ 10 เม็ด ทุก 3-5 ชั่วโมง เมื่อมีอาการ

2.  น้ำมันจากไพลหอม



ส่วนประกอบ :  ไพล, เกล็ดสระแหน่, น้ำมันยูคาลิปตัส, น้ำมันกานพลู 

สรรพคุณ :  ทา ถู นวด บรรเทาอาการปวดเมื่อย เคล็ด ขัดยอก วันละ 3-4 ครั้ง

3. ยาเขียวหอม ตราธงทอง




ส่วนประกอบ : ใบพิมเสน, ใบผักกระโฉม,ใบหมากผู้, ใบหมากเมีย, ใบสันพร้าวหอม, รากแฝกแหม, เปราะหอม, จันทน์เทศ, จันทน์แดง, ว่านกีบแรด, ว่านร่อนทอง, ดอกพิกุล, เนระพุสี, พิษนาศน์, มหาสดำ, เกสรบุนนาค, เกสรสารภี, เกสรบัวหลวง

สรรพคุณ
แก้ตัวร้อน ร้อนใน กระหายน้ำ ละลายน้ำสุกหรือน้ำดอกมะลิ
แก้พิษหัด พิษสุกใส ละลายน้ำรากผักชีต้ม ทั้งรับประทานและชโลม

ขนาดและวิธีใช้ : รับประทานวันละ 4-6 ครั้ง เด็กครั้งละ ครึ่ง ช้อนชา   ( 2 กรัม) ผู้ใหญ่ครั้งละ 1 ช้อนชา

 ความรู้คู่ยา

ผลต่อโรคหัวใจ เมื่อได้รับแคลเซียมในปริมาณที่สูงเกินไป

     มีการเผยแพร่งานวิจัย ใน เว็บไซด์ ของ BMJ (Britist Medical Journal)  เกี่ยวกับ การได้รับแคลเซียมที่สูงมากเกินไปทำให้อัตราการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุและจากโรคหลอดเลือดหัวใจ เพิ่มขึ้น
     วัตถุประสงค์ของการวิจัยนี้เพื่อ ศึกษา ความสัมพันธ์ระหว่าง การได้รับแคลเซียม จากอาหารและอาหารเสริม กับอัตราการตาย 
    กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษา คือผู้หญิง ชาว สวีเดน มีอายุตั้งแต่ 39-73 ปี มีการติดตามผลเป็นเวลา ​19 ปี  ทำการเก็บข้อมูล ปริมาณแคลเซียมที่ได้รับ โดย ให้กลุ่มตัวอย่าง ตอบข้อมูลการบริโภคอาหารและเครื่องดืม รายวัน หรือ รายสัปดาห์  ในช่วงเวลา 1 ปี ที่ผ่านมา นำไปคำนวนเป็นปริมาณแคลเซียม ที่ได้รับในแต่ละวัน โดยใช้เกณฑ์ของ Swedish National Food Administration database  
     ผลจากการศึกษา พบว่า ผู้ป่วยหญิง ที่มีอายุระหว่าง 39-73 ปี ที่ได้รับปริมาณแคลเซียม > 1,400 mg/day  เปรียบเทียบกับ ผู้หญิงที่ได้รับแคลเซียม 600-1000 mg/day เป็นดังนี้
 1. อัตราการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุโรค เพิ่มขึ้น 40%
2. อัตราการเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจ เพิ่มขึ้น 49%
3. อัตราการเสียชีวิตจากโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเพิ่มขึ้น 114 %
     ถ้าเป็นผู้หญิงที่ได้รับแคลเซียมจากอาหารในปริมาณที่สูงอยู่แล้ว (มากกว่า 1,400 mg/day) หากรับประทานแคลเซียมเพิ่มเข้าไปอีก จะมีอัตราการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุโรคเพิ่มขึ้น 2.57 เท่า 
     แต่ถ้าคนเราได้รับแคลเซียมในปริมาณที่น้อยเกินไป  ก็จะทำให้อัตราการหักของกระดูกสูงขึ้น เมื่อสูงอายุ และ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิด stroke และ โรค หลอดเลือดหัวใจขาดเลือด ได้เช่นกัน
     ดังนั้น การที่จะประเมินปริมาณแคลเซียมที่ร่างกายได้รับ ต้องพิจารณาถึงการบริโภคอาหารที่มีแคลเซียมเป็นส่วนประกอบ และ ปริมาณแคลเซียมที่เป็นอาหารเสริมร่วมด้วย เพื่อให้ร่างกายได้รับแคลเซียมในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากหรือน้อยเกินไป

เข้าถึงได้จาก 

1. BMJ 2013; 346 doi: http://dx.doi.org/10.1136/bmj.f228 (Published 13 February 2013)
Cite this as: BMJ 2013;346:f228
2.  http://www.facebook.com/photo.php?fbid=382151535216171&set=a.327508760680449.77079.100002639845521&type=1&theater





 

ทบทวนความเสี่ยง เพื่อการแก้ไขเชิงระบบ


1. พบปัญหาลายมือแพทย์คล้ายกันมาก และพบมีการจ่ายยาผิดจากห้องจ่ายยา 
     ในคู่ยา ดังนี้
     Flunarizine  กับ  Fluconazole
     Clopaz 25 mg  กับ Clonazepam 2 mg
จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ระวังในการจ่ายยาคู่ดังกล่าว

2. มีการเปลี่ยนแปลงความแรงของยา 
     รายการที่พบปัญหา คือ
     - Fenofibrate เดิม ในบัญชียาโรงพยาบาล มีขนาด 300 mg. ซึ่งได้ตัดออกจากบัญชียา และนำ ขนาด 100 mg. เข้ามาแทน
     - Sermion เดิม ในบัญชียาโรงพยาบาล มีขนาด 30 mg. ซึ่งได้ตัดออกจากบัญชียา และนำ ขนาด 10 mg. เข้ามาแทน
      ยาทั้งสองรายการนี้ แพทย์จะมีการปรับขนาดยาตามอาการของผู้ป่วย  ในกรณีที่แพทย์สั่งยาแล้วไม่ระบุความแรงของยา ให้ส่งใบสั่งยากลับไปพบแพทย์ เพื่อยืนยัน ขนาดยาที่แพทย์ต้องการทุกครั้ง

3. พบการจัดยาผิดความแรง  ของยา Efavirenz 
     เนื่อง จากยา มีทั้งหมด 3 ความแรง คือ ขนาด  600 mg., 200 mg., และ 50 mg. แต่ขนาดที่ใช้บ่อยคือ 600 mg. พบความผิดพลาดในกระบวนการจัดยา โดยเจ้าหน้าที่มักจะจัดยามาเป็นขนาด 600 mg. จึงมีการปรับ ตัวอักษรชื่อยาที่ฉลากยา ดังนี้
 โดย Efavirenz ขนาดยา 200 mg. และ 50 mg. ซึ่งสั่งใช้น้อย จะเขียนความแรงยาไว้หน้าชื่อยา ส่วน ขนาด 600 mg. ซึ่งมีการสั่งใช้บ่อย จะเขียนชื่อยาก่อน แล้วตามด้วย ความแรงยา ดังรูป

Efavirenz  200 mg.
Efavirenz 50 mg.

Efavirenz 600 mg.

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

16 february 2015

มกราคม 2560