PHARMA NEWS


ฉบับประจำวันที่ 1  มกราคม 2558



ข่าวจากกลุ่มงานเภสัชกรรม


เปลี่ยนแปลงรายการยาในโรงพยาบาล

1. Escitalopram  Oxalate

เปลี่ยนบริษัทจัดซื้อยา  จากชื่อการค้า Lexapro ® เป็น ชื่อการค้า ESIDEP ® ซึ่งเป็นยาที่ผลิตโดยบริษัท RANBAXY LABORATORIES LIMITED.INDIA
ชื่อสามัญทางยา : Escitalopram Oxalate 
ความแรง :  ในยา 1 แผง  มีตัวยา Escitalopram Oxalate 10 mg.
ลักษณะยา : เป็นยาเม็ดเคลือบฟิล์ม รูปรี สีขาวถึงขาวนวล นูนทั้ง 2 ด้าน ด้านหนึ่งมีรอยแบ่งครึ่งเม็ดยา ใน 1 แผงมีตัวยา 7 เม็ด ใน 1 กล่อง มียา 28 เม็ด
ข้อบ่งใช้ : เป็นยาต้านอาการซึมเศร้า








งานนิทรรศการยา สัปดาห์เภสัช


 กลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลพุทธโสธร จัดกิจกรรม สัปดาห์เภสัช เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องด้านยา และความเสี่ยงด้านยา  ในวันที่ 26-30 มกราคม 2558  จึงขอเชิญชวนให้ทุกหน่วยงานและผู้สนใจ เข้าร่วมกิจกรรมในวัน เวลาดังกล่าว กำหนดการจะแจ้งให้ทราบต่อไป


ความรู้คู่ยา


           ลดความอ้วน กับการใช้ยา 


          ยาลดความอ้วนส่วนใหญ่ จะออกฤทธิ์ทำให้ลดความอยากอาหาร ลดความถี่ของความรู้สึกหิว เป็นยาที่ออกฤทธิ์กระตุ้นระบบประสามส่วนกลาง การใช้ยาลดน้ำหนักจะทำให้น้ำหนักลดลงได้ขณะรับประทานยา แต่น้ำหนักจะสูงกลับขึ้นเท่าเดิมเมื่อหยุดยา เนื่องจากการใช้ยาลดน้ำหนักในช่วงระยะเวลาหนึ่งนั้น จะทำให้ร่างกายปรับตัวตามธรรมชาติ เมื่อร่างกายได้รับพลังงานจากอาหารน้อยลง เพื่อที่จะให้มีพลังงานเพียงพอที่จะดำรงชีวิต จึงปรับตัวให้มีอัตราการเผาผลาญพลังงานลดลง เมื่อหยุดยาและกลับมารับประทานเท่าเดิม จะทำให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นกว่าเดิม จากการที่มีการเผาผลาญพลังงานที่ลดลงนั่นเอง เราเรียกอาการนี้ว่า yo-yo effect 
          วิธีง่ายๆ ที่จะดูว่าตนเองอ้วนหรือไม่นั้น คำนวนได้จาก การหาค่าดัชนีมวลกาย ( Body Mass Index) 

การคำนวน ดัชนีมวลกาย = น้ำหนัก (kg)
                                              ส่วนสูง 2 (m)

          ยกตัวอย่าง เช่น สูง 160 cm หนัก 50 kg. คำนวณ ดัชนีมวลกายดังนี้
                   ดัชนีมวลกาย =     50       = 22.22 
                                             ( 1.5) 2

          จากนั้นนำค่าดัชนีมวลกาย มาแปรผลดังนี้
ต่ำกว่า 20    หมายความว่า น้ำหนักตัวต่ำกว่ามาตรฐาน
20.0-24.9   หมายความว่า น้ำหนักปกติ
25.0- 29.9  หมายความว่า น้ำหนักเกิน
30.0-39.9  หมายความว่า  โรคอ้วน
มากกว่า 40 หมายความว่าโรคอ้วนรุนแรง

ผลจากการใช้ยาลดความอ้วน

          การออกฤทธิ์ของยาลดความอ้วน คือกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง และยาส่วนใหญ่จัดเป็นอนุพันธ์ของแอมเฟตามีน แต่มีการพัฒนายาให้มีผลข้างเคียงต่อระบบประสาทน้อยกว่ามาก  ผลข้างเคียงที่พบบ่อย ได้แก่ ไม่อยู่นิ่งเฉย นอนไม่หลับ เวียนศรีษะ วิตกกังวล เคลิ้มฝัน ปวดศรีษะ ตาพร่า หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานอาจก่อให้เกิดการติดยาได้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีประวัติใช้ยาในทางที่ผิด หรือมีภาวะซึมเศร้ามาก่อน แม้ว่าจะใช้ยาในขนาดปรกติเพื่อลดความอ้วน หากหยุดยาอย่างทันทีทันใด ก็อาจเกิดภาวะถอนยาได้ อาการดังกล่าวได้แก่ การเกิดภางะทางจิตอย่างเฉียบพลัน ประกอบด้วยอาการสับสน หวาดระแวง และประสาทหลอน 

การลดน้ำหนักอย่างถาวร ทำอย่างไร

วิธีลดน้ำหนักตัวที่แนะนำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่
1. การควบคุมอาหาร
2. การออกกำลังกาย
3. การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม

การรับประทานอาหารนอยลงวันละ 500 กิโลแคลอร่ี นํ้าหนักตัวจะลดลงไดประมาณ 0.45 กิโลกรัม ตอสัปดาห ถาปฏิบัติไดจริงในชวง 10 เดือน จะสามารถลดได 18 กก. ท้ังน้ีตองมีความต้ังใจความอดทนจึง ประสบความสําเร็จ

การออกกําลังกายสมํ่าเสมอนอกจากมีผลตอน้ําหนักตัวที่ลดลงแลว ยังทําใหรางกายแข็ง แรงมี ความเส่ียงตอโรคอ่ืนๆ ลดลง ถาคุณรูสึกวานํ้าหนักมากเกินไป แนะนําใหออกกําลังกาย ครั้งละ 20-30 นาที 5-7 วันตอสัปดาห

การเปล่ียนแปลงพฤติกรรม เชนรับประทานอาหารในแตละม้ือใหชาลง เค้ียวอาหารให นานข้ึน กอนกลืนอาหาร จะทําใหรูสึกอิ่ม จะบริโภคไดนอยลง เปนตน


ทบทวนความเสี่ยง


           พบความคลาดเคลื่อนในการจ่ายยา ผิดชนิด รายละเอียดดังนี้
          แพทย์ ได้สั่งยา Atrovastatin 45 เม็ด ห้องยาจ่ายยาผู้ป่วยไป ต่อมาผู้ป่วยได้นำซองยากลับมาถามที่ห้องยา เนื่องจากแผงยาไม่เหมือนเดิมที่เคยกิน ตรวจสอบที่ซองยา พบว่า มียา Atrovastatin 1 กล่อง คือ 30 เม็ด และ อีก 15 เม็ด ที่เป็นแผงแยกออกมาจากกล่อง พบว่าเป็นยา Clopidogrel กรณีผู้ป่วยรายนี้ยังไม่ได้กินยา เนื่องจากผู้ป่วยสงสัยจึงกลับมาถามก่อน


ใบสั่งยาที่แพทย์สั่งยา


ยา atrovastatin และ ยา clopidogrel




แผงยา clopidogerl ด้านหลัง

แผงยา Atrovastatin ด้านหลัง


          จากลักษณะของแผงยาทั้งสองชนิด พบว่าเป็นยาแผงสีเงินคล้ายกัน  หากจัดยา โดยคว่ำด้านที่ไม่มีตัวหนังสือออกมาให้เห็นชัดเจน ทำให้สังเกตุได้ยาก ยาทั้งสองชนิดนี้ก็วางอยู่ชั้นยาที่ห่างกันอยู่แล้ว จึงได้มีการแจ้งเตือนให้บุคคลากรในกลุ่มงานเภสัชกรรม เฝ้าระวังการจัด/ จ่ายยาคู่นี้ ยาคู่นี้  ขณะนี้กำลังติดตามว่าพบการเกิดซ้ำหรือไม่ 



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

16 february 2015

มกราคม 2560